สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่ออุตสาหกรรม

“พลัง“ เครื่องเชื่อมไฟฟ้าและเครื่องตัดพลาสม่าแบรนด์คนไทย แก้ปัญหาสต๊อกบวมด้วย APS System with AI เชื่อมต่อกับ MRP สามารถช่วยลดสต๊อกวัตถุดิบคงคลังกว่า 14,000,000 บาทในปีแรก

       บริษัท ดี.เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้ประกอบการ SMEs ไทย ผู้ผลิตเครื่องเชื่อมไฟฟ้าและเครื่องตัดพลาสม่าให้มีคุณภาพสูง “อึด ทน ดี” ภายใต้เครื่องหมายการค้า “พลัง” และ “ไดชิ” บริษัทฯ มุ่งมั่นผลิตเครื่องเชื่อมคุณภาพสูงในราคาย่อมเยาเพื่อคนไทย พร้อมทีมวิจัยและพัฒนาที่มีประสบการณ์สูงในหลายสาขาวิชา โดยคำนึงถึงความต้องการของงานเชื่อม การใช้งานง่าย และความปลอดภัยของผู้ใช้จนเป็นที่ยอมรับในวงการอุตสาหกรรม

       ซึ่งจากเดิมกระบวนการทำงานของบริษัทฯ มีรูปแบบการผลิตของผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบที่แตกต่างกัน กล่าวคือ สินค้าแต่ละรุ่นของบริษัทมีรูปแบบการผลิต ขั้นตอนและชิ้นส่วนวัตถุดิบ (Material) แตกต่างกัน ทำให้ในการเปลี่ยนแปลงการผลิตในแต่ละครั้งนั้น ทำได้ยุ่งยากและใช้เวลานาน ประกอบกับนโยบายการผลิตเดิมของบริษัทฯ เป็นการผลิตแบบเก็บสต็อคล่วงหน้า ซึ่งต้องผลิตในปริมาณมากต่อครั้ง ทำให้มีต้นทุนการผลิตและต้นทุนการจัดเก็บสูงมาก การบริหารจัดการคลังสินค้า (Warehouse) ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันต่ำ และไม่เหมาะกับการตลาดในปัจจุบัน

       โดยในปี 2562 – 63 ทางสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ร่วมกับ สถาบัน ICTI, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้อนุมัติเงินทุนสนับสนุนมูลค่า 1 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการปรับปรุงภาคอุตสาหกรรมด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีให้เกิดขึ้นจริง ภายใต้โครงการ depa Digital Transformation Funds โดยที่ SME ต้องมีการร่วมลงทุนอย่างน้อย 50% มีระยะเวลา 1 ปี

       ซึ่งจากการดำเนินงานโครงการของบริษัท ดี.เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญได้มีการนำเสนอโซลูชั่นและแผนงานในการพัฒนาและใช้งานระบบ Artificial Intelligence Based Advance Production Scheduling (APS) พร้อมกับเชื่อมโยงระบบ MRP มาใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลการผลิตและบริหารจัดการคลังสินค้า (Warehouse) อย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งให้ระบบแสดงผลข้อมูล Dashboard แสดงภาพแผนงานการผลิต Visual Control แบบเรียลไทม์ เพื่อให้หัวหน้างานและผู้บริหาร สามารถตรวจสอบสถานะของการผลิตได้ทันที

ภายหลังจากการดำเนินงานโครงการ และได้ติดตามผลมาสักระยะหนึ่ง พบว่า ผลการใช้งานระบบ Artificial Intelligence Based Advance Production Scheduling (APS) พร้อมกับเชื่อมโยงระบบ MRP สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากรฝ่ายผลิตได้มากขึ้นกว่า 16% จากอัตราเดิม คิดเป็นมูลค่า 3,300,000 บาทต่อปี, สามารถช่วยลดมูลค่าสต๊อกวัตถุดืบคงคลังลงจากเดิม ลดลงกว่า 24% จากอัตราเดิม ประมาณการมูลค่าสต๊อกวัตถุดิบลดลงประมาณ 14,000,000 บาทในปีแรก รวมทั้งผู้บริหารคาดการณ์ว่าจะสามารถช่วยลดต้นทุนการบริหารคลังสินค้าและการวางแผนการผลิตลงได้ (Impact) 6,000,000 บาทต่อปี ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น และมีสภาพคล่องทางการเงินดีขึ้นในอนาคต

___________________________________________________

ตัวจริงเรื่อง New Technology for Industry วางใจ “สถาบัน ICTI”

ให้บริการโดย ICTI Alliance Partner, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

สนใจร่วมเป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์ของเรา

ติดต่อ @line: @icticlub / e-mail: fti.ictihub@gmail.com

Scroll to Top