สถาบันดิจิทัลเพื่ออุตสาหกรรม

Success Case จาก บริษัท ไทยโตชิบาอุตสาหกรรม จำกัด

ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์โตชิบา ก่อตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการผลิต พัฒนา และจำหน่ายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน เช่น พัดลม ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ โดยใช้เทคโนโลยีจากญี่ปุ่น ผสานกับนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคไทย ทั้งในด้านคุณภาพ ประหยัดพลังงาน และความทนทาน มีฐานการผลิตหลักในประเทศไทย และส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศหลายแห่ง

แนวทางการมุ่งสู่ Industry 4.0

องค์กรของเรายังไม่เข้าสู่ยุค Digital 4.0 อย่างสมบูรณ์ แต่ได้วางแผนกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านภายใน 3 ปี โดยมุ่งเน้น 3 ด้านหลัก ได้แก่ การนำ Energy Solution มาลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน การใช้ AI เพื่อยกระดับคุณภาพ ลดของเสีย และเสริมความปลอดภัยในโรงงาน และการพัฒนาระบบ Production Monitoring เพื่อวิเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เรายึดแนวทาง Digital Transformation ที่เน้น 2 ด้าน คือ “คน” และ “เทคโนโลยี” โดยมุ่งสร้าง Mindset ให้พนักงานพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง มีส่วนร่วม และเข้าใจการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมควบคู่กับการเลือกเทคโนโลยีที่คุ้มค่าต่อการลงทุนและเหมาะกับบริบทของธุรกิจแต่ละประเภท

ความสำคัญของ AI

ในปัจจุบันคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า AI เข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมที่เราใช้ AI เพื่อยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นในกระบวนการผลิต การตรวจสอบชิ้นงานที่ต้องการความแม่นยำสูง ซึ่งมนุษย์อาจเกิดความผิดพลาดได้ง่าย การนำ AI เข้ามาช่วยจึงช่วยลดความผิดพลาด เพิ่มประสิทธิภาพ และยังเปิดโอกาสให้พนักงานที่เคยทำงานในจุดเดิม ได้โยกย้ายไปเรียนรู้งานใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาทักษะ และอาจมีส่วนร่วมในการผลักดันโครงการ AI อื่นในอนาคตได้อีกด้วย

การนำ AI Technology หรือเครื่องมือต่าง ๆ มาใช้ในโรงงาน แม้จะมีหลายทางเลือก แต่ละเครื่องมือก็มีความยากง่ายและการลงทุนที่แตกต่างกัน AI – CIRA CORE จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะกับโรงงานที่เพิ่งเริ่มต้น เพราะใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องมีทักษะด้าน IT มากนัก และสามารถพัฒนาโปรเจกต์ง่าย ๆ ได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่เดือน ทั้งยังสามารถต่อยอดได้เมื่อมีข้อมูลมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ทีมเห็นประโยชน์ของ AI และเกิดการแลกเปลี่ยนไอเดีย เพื่อขับเคลื่อนโครงการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง

Scroll to Top